วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

รกค้าง (Retention of Placenta)
รกค้าง 
- รกไม่หลุดจากผนังมดลูกภายใน 12 ชั่วโมงภายหลังคลอดลูกแล้ว 
- (ปกติไม่ควรเกิน 5-6 ชั่วโมง)

สาเหตุ

1. คลอดยาก dystocia (มดลูกหมดเเรง เฉื่อย ตัวลูกใหญ่ ผิดท่า )
2. คลอดก่อนกำหนด  หรือ  แท้งลูกจากสาเหตุต่างๆ (ลูกตาย)
3. โรคติดเชื้อทางระบบสืบพันธุ์   ในส่วนของรก (Placenta)  ระหว่างการตั้งท้องหรือในระยะคลอ เช่น โรคบรูเซลโลซิส มดลูกอักเสบจากการติดเชื้อต่างๆ ทั้งแบคทีเรียและเชื้อรา
4. ความผิดปกติในตัวลูก เช่น ลูกตายทั้งกลมและเป็มัมมี่ (ลูกกรอก) หรือคลอดลูกแฝด
5. การขาดวิตามินละแร่ธาตุบางอย่าง เช่น วิตามินอี ธาตุซิลิเนี่ยม หรือแคลเซี่ยม  E Se Ca
6. การใช้ยากลุ่มสตีรอยด์ (steroid)

อาการ

แม่โคแสดงอาการปวดและพยายามเบ่งให้ส่วนของรกที่ติดอยู่กับผนังมดลูกออกมา 
อาการทั่วไปของแม่โคจะไม่มีความผิดปกติมาก 
นอกจากกินน้อยลงหรือปริมาน้ำนมที่รีดได้ลดลง 
แต่ถ้าไม่รีบแก้ไขโดยเร็ภายใน 12-24 ชั่วโมง 
จะทำให้เกิดการอักเสบของผนังมดลูกเป็นเหตุให้เกิดปัญหผสมติดยาก
เนื่องจากมีการติดเชื้อภายในมดลูกอย่างเรื้อรังตามมา

การแก้ไข

ไม่ควรใช้มือล้วงดึงเอารกที่ค้างออกมา เพราะอาจจะทำให้เลือดภายในมดลูกไหลไม่หยุดจนทำให้แม่โคเสียเลือดมากและตาย 
หรือเกิดการอักเสบเพราะติดเชื้อตามมาภายหลังได้ 

ควรสอดยาเม็ดเข้ามดลูกครั้งละ 2-3 เม็ด วันเว้นวัน จนกว่ารกที่ค้างอยู่จะเกิดการสลายตัวและไหลหลุดออกมาเอง

แต่ถ้ามีภาวะติดเชื้อร่วมด้วยสัตว์จะมีไข้ ควรให้ยาปฏิชีวนะกลุ่มซัลโฟนามีด (sulfonamide) IM / IV

การป้องกัน

ในฝูงโคที่มีประวัติรกค้างบ่อยๆ หรือในบางพื้นที่
ที่มีการขาดแร่ธาตุบางชนิด โดยเฉพาะซิลิเนี่ยม (Se) 
ควรฉีดยาในกลุ่มวิตามิน ADE เข้ากล้ามเนื้อในช่วง 1 เดือนก่อนคลอด 
หรือให้แร่ธาตุพวกนี้ผสมในอาหาร 
หรือมีแร่ธาตุก้อนให้สัตว์ด้เลียกินตลอดเวลา จะช่วยป้องกันการเกิดรกค้างได้