วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

พอหมอตรวจหมอก็จะวินิจฉัยแยกโรค โดยดูว่าพบเจออาการอะไรเพิ่มเติมบ้างร่วมกับสิ่งที่เจ้าของได้ให้ข้อมูลมาในตอนต้น พร้อมทั้งประมวลความรู้ว่าน่าที่จะเป็นโรคอะไรได้บ้าง ซึ่ง
จากอาการที่พบข้างต้น ภาวะโรคที่น่าจะเป็นไปได้คือ
มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดอาหาร
- หลอดอาหารตีบหรือเปล่า ตีบจากใน(FB? , MASS? )หรือว่าตีบจากนอก(MASS?)
- หลอดอาหารขยายมากเกิน(megaesophagus)
- หรือว่าหลอดอาหารอักเสบ

ซึ่งมักจะพบว่าสุนัขมีอาการแห้งน้ำ(ก็มันกินน้ำอาหารเข้าไปไมได้นิ) เลือดข้น แร่ธาตุไม่สมดุลและมีการติดเชื้อในร่างกายร่วมด้วย

หลังจากคิดว่าน่าจะเป็นโรคนี้แล้วเราต้องตัดโรคอื่นที่เราสงสัยออกไปและยืนยันโรคที่เราคิดว่าน่าจะเป็น(rule out )โดยการตรวจเพิ่มเติมดังนี้คือ
- X-ray : ดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมใน esophagus ไหม ? ถ้าสงสัยผ้าหรือยางต้องใช้การกลืนสารทึบรังสีร่วมด้วย เพื่อระบุขนาดและตำแหน่งของสิ่งแปลกปลอมนั้น

อาจพบการคั่งของแก๊สก่อนถึงตำแหน่งที่อุดตัน
บางตัวอาจสำลักของเหลวเข้าปอด --> ปอดอักเสบตามมาได้ [Tx : O2 + ABO + Fluid ระวังด้วย]
อาจพบน้ำหรืออากาศคั่งในช่องอก --> แสดงว่าหลอดอาหารในช่องอกฉีดขาด [Tx : sur]

- ส่องกล้อง [endoscopy] เพื่อดูลักษณะของสิ่งแปลกปลอมและเยื่อบุทางเดินอาหาร ถ้าเล็กก็สามารถคีบออกได้ ถ้าใหญ่หรือฉีกขาดต้องทำการผ่าตัด

รักษาไง ? ขึ้นกับความรุนแรงของการบาดเจ็บ ความเสียหายที่เกิดกับเยื่อบุทางเดินอาหารว่ามากน้อยแค่ไหน
ถ้าบาดเจ็บเล็กน้อย : ทานอาหารอ่อน + กินยา(ABO + ยาเคลือบทางเดินอาหาร + ยาลดอาเจียน + ยาลดกรด)
ถ้าบาดเจ็บมาก : อาจต้องสอดท่อให้อาหารหรืออาจต้องงดน้ำและอาหารในระยะแรก แต่ให้ผ่านทางเส้นเลือดแทน(IV) เพื่อพักการทำงานของหลอดอาหาร

พอรักษาไปแล้วก็ต้องทีการติดตามผลว่าเป็นอย่างไร หมอก็ต้องนัดมาดูอาการ แผลหายดีไหม มีความผิดปกติอะไรเพิ่มขึ้นมาหรือเปล่า เช่น มีการตีบของหลอดอาหารเนื่องจากการหายของแผลหลังจากการรักษาไป 2-3 m หรือไม่(แล้วตรวจ confirm ไง อาจต้องให้กลืนแป้ง x-ray หรือส่องกล้อง แต่ถ้าสุนัขร่าเริงดีไม่มีอาการผิดปกติอะไรก็อาจพิจารณาไม่ทำก็ได้)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น